วันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2555

10 มหาเศรษฐีระดับโลก ที่เรียนไม่จบมาหวิทยาลัย

          บุคคล เหล่านี้ มี ความตั้งใจ ความพยายาม โอกาสและความพร้อมของจิตใจ และที่สำคัญคือสิ่งที่พวกเขามีมันเหนือกว่า ดีกรีหรือใบปริญญาซะอีก ที่พาให้เค้าประสบความสำเร็จ ในหน้าที่การงาน และสร้างธุรกิจระดับยักษ์ บรรลือโลก ไว้หลายแบรนด์ อีกทั้งยังนั่งคุมคนจบปริญญาหลายพันคน ให้ทำงานให้พวกเขา ... เรามาเริ่มรู้จัก บุคคล เหล่านั้นกันดีกว่า
 
 
1. Richard Branson : ผู้ก่อตั้ง
แบรนด์ Virgin
       ด้วยภาพลักษณ์นักธุกิจนอกกรอบ ตำราไหนว่าแน่พี่ขอแหก เสาะแสวงหาความท้าทาย ในการดำเนินชีวิตและธุรกิจ เลิกเรียนตั้งแต่อายุ 16 มาเอาดีด้วยการทำนิตยสารสำหรับนักเรียนเป็นธุรกิจ ค่อยๆ ขยายธุรกิจอื่นๆ มากมาย ไม่เว้นแม้แต่สายการบิน เป็นเพลย์บอยแถมรวยภาพที่ปรากฏก็เลยแสบๆ อย่างที่เห็น

 

2. CoCo Chanel : ผู้ก่อตั้ง
แบรนด์ Channel
       เธอเกิดมากำพร้า เริ่มอาชีพเป็นเพียงช่างเย็บผ้า ในยุคที่สตรีต้องตัดชุดสตรีเท่านั้น แชนแนลผลักดันตัวเองอย่างกล้าหาญด้วยการออกแบบเสื้อผ้าสำหรับผู้ชาย ด้วยความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบและผสมผสานเนื้อผ้า สร้างเอกลักษณ์ให้ผลงานของเธอ แต่ที่สร้างชื่อให้เธอเป็นที่จดจำตลอดกาลคือ คือ น้ำหอม แชนแนลหมายเลข 5 อันโด่งดังนั่นเอง



 3. Michael Dell : 
ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Dell
       ไปไหนก็จะเห็นคอมพิวเตอร์-โน้ท บุ๊คยี่ห้อ Dell กันใช่ไหม ผู้ก่อตั้งคือ ไมเคิล เดลล์ เขาหยุดเรียนตั้งแต่อายุ 19 มาก่อตั้งบริษัท PC's Limited ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Dell, Inc และผันตัวเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ประสบความสำเร็จ มากที่สุดในโลก ในปี 1996 เดลล์ได้มอบทุนให้มหาลัยเทกซัสจำนวน 50 ล้านเหรียญ (ราวๆ 2,000 ล้านบาท) เพื่อยกระดับสุขภาพและการศึกษาของเยาวชน
 


4. Henry Ford : ผู้ก่อตั้ง Ford Motor
       เขาออกจากบ้านตอนอายุ 16 ปีเพื่อเป็นช่างยนต์ ภายหลังก่อตั้ง บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ ดำเนินอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ ซึ่งรถที่ประสบความสำเร็จครั้งแรกคือรุ่น Ford Model T ผลกำไรทำให้ขยายกิจการ และริเริ่มวางสายการผลิตแบบอัตโนมัติ





 5. Bill Gates : ผู้ก่อตั้ง 
Microsoft
       ติด อันดับมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกปี 1995 - 2006 ช่วงวัยรุ่นหยุดเรียนเพราะมุ่งมั่นมากที่ จะตั้งบริษัทผลิตซอฟท์แวร์ ชื่อความหมายเล็กจิ๋วว่า บริษัทไมโครซอฟท์ รวยล้นฟ้าแล้วยังใจบุญ เพราะครอบครัวบิลก่อตั้ง มูลนิธิ บิล & มาลิดา เกตส์ คอยช่วยเหลือด้านการศึกษาและสุขภาพแก่คนทั้งโลก



6. Steve Jobs : ผู้ก่อตั้งและสร้างความยิ่งใหญ่ ให้แบรนด์ Apple
       เรียนมหาวิทยาลัยได้เทอมเดียวก็ไป ทำงานให้กับ บริษัท อาตาริ ก่อนที่จะควบรวมเป็น บริษัท แอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์ แต่ชื่อมันยาว เดี๋ยวนี้เลยตัดเหลือเพียง แอปเปิ้ล แบรนด์ล้ำๆ ที่ทำให้คนทั้งโลกคลั่ง กับผลงานล่าสุดอย่าง iPad และ iPhone 4 ครั้งหนึ่งสตีฟ จ็อปส์เคยเป็น CEO ให้ Pixar ก่อนที่จะควบรวมกับ วอลท์ ดีสนีย์





7. James Cameron : ผู้กำกับระดับออสการ์
       หยุด เรียนตอนปี 2 ไปทำงานรับจ้างทั่วไป ทั้งขับรถบรรทุกและงานเขียน ระหว่างนั้นก็พยายามเรียนด้าน สเปเชียล เอฟเฟค ด้วยตนเอง จากวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาในห้องสมุด หลังจากดูหนัง สตาร์วอร์ จึงเลิกขับรถบรรทุก ไปหางานในวงการภาพยนตร์ทำ จากงานผู้ช่วย ก็ผันมาเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานที่กลายเป็นตำนาน อย่าง คนเหล็ก 2, ไททานิค และ ภาพยนตร์ 3D สุดอลังการอย่าง อวาตาร



8. Lady Gaga : นักร้อง
ซุปเปอร์สตาร์ หลุดโลก
       กว่าจะเป็นราชินีเพลงป๊อปแดนซ์และ เจ้าแม่แฟชั่นหลุดโลกคนนี้ เธอหัดเปียโนตั้งแต่อายุ 4 ขวบ เริ่มเขียนโน้ตเปียโนตอน 13 พออายุ 17 ปีก็แต่งเพลงเอง จนกระทั่งปีสองเทอมสอง เธอหยุดเรียนและหันไปเอาดีในอาชีพดนตรี ด้วยเงินเพียงน้อยนิด จนประสบความสำเร็จในชื่อ "เลดี้ กาก้า" ที่ทั้งโลกรู้จัก ชื่อที่ผันมาจากชื่อเพลง "เรดิโอ กา ก้า"



 9. Tiger Woods : นักกอล์ฟหมายเลข 1 ของโลก
       เล่นกอล์ฟตั้งแต่เดินได้ โชว์วงสวิงให้โลกตะลึงตอนอายุ 2 ขวบ เอาชนะพ่อตัวเองได้ตอน 11 ขวบ หลังจากคว้าแชมป์รายการดังมากมาย จึงตัดสินใจหยุดเรียนและเปลี่ยนเป็นนักกอล์ฟมืออาชีพ ขณะอยู่ปี 2 ผูกขาดตัวเองเป็นนักกอล์ฟมือหนึ่งของโลกมานานหลายปี  แม้ไม่เคยเรียน จบแต่ตีกอล์ฟจนได้ดี ปริญญาสาขาต่างๆ ก็มาประเคนให้ ครั้งนึงรัฐมนตรีบ้านเราบ้าจี้เชิญมามอบแล้วบอกว่าวู๊ดส์เป็นคนไทย พี่เสือแกสวนทันทีว่าไม่ใช่ ผมเป็นอเมริกัน ท่านๆ หน้าแหกกันเป็นแถว

 
10. Mark Zuckerberg : 
ผู้ก่อตั้ง Facebook
       ผู้ก่อตั้ง Facebook ที่คนทั้งโลกติดกันงอมแงม พัฒนาเฟสบุ๊คกับเพื่อนร่วมชั้น ตั้งแต่ตอนที่เรียนอยู่ที่ ฮาวาร์ด หลังจากที่เฟสบุ๊คได้รับความนิยมและทำเงินมหาศาล ก็หยุดเรียน เพื่อเป็นผู้บริหารของเฟสบุ๊คเต็มตัว ปัจจุบันเป็นมหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในโลก โดยปี 2010 นี้มีทรัพย์สินมูลค่าถึง 4 พันล้านดอลล่าร์


       แล้วคราวหน้าจะมาเจาะเบื้องลึกของแต่ละท่านให้ได้รับทราบกัน......ว่าแต่ละท่านนั้นกว่าจะประสบความสำเร็จต้องสู้ ต้องผ่านอะไรมาบ้าง  
       สำหรับบทความนี้ขอขอบคุณ EnterTraining.in.tn มา ณ ที่นี้ด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น