วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555

บิล เกตส์ (Bill Gates) ผู้ประสบความสำเร็จอย่างมั่งคั่ง

       บทความนี้ก็มาถึงคิวของ หนทางความสำเร็จของ Bill Gates : ผู้ก่อตั้ง Microsoft ตามที่ได้เอ่ยไว้ในบทความที่แล้ว บิลเกตส์ ถือว่าเป็นบุคคลคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงเลยก็ว่าได้ ไม่มีใครบนโลกนนี้ไม่รู้จัก บิลเกตส์ เอาล่ะเราจะไปติดตามดูสิว่า บิลเกตส์ ทำอย่างไรถึงได้ประสบความสำเร็จในชีวิต  ไปติดตามกันเลย

        บิลล์ เกตส์ เกิดที่เมืองซีแอทเทิล มลรัฐวอชิงตัน เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 1955 บิดาชื่อนายวิลเลียม เอ็ช เกตส์ จูเนียร์  มีอาชีพนักกฎหมายของบริษัท มารดาชื่อแมรี แมกซ์เวล เกตส์ เป็นสมาชิกคณะกรรมการของ Berkshire Hathaway,
First Interstate Bank, Pacific Northwest Bell และคณะกรรมการแห่งชาติของ United Way ชื่อเต็มของเขาคือ วิลเลียม เฮนรี เกตส์ ที่สาม ปู่ของเขาคือ วิลเลียม เฮนรี เกตส์ ซีเนียร์3
        บิลล์ เกตส์เข้าศึกษาที่โรงเรียนเลคไซด์ อันเป็นโรงเรียนมัธยมที่ดีที่สุดในเมืองซีแอทเทิล ที่นั่นเองที่เขาได้พัฒนาทักษะในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์กับเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ของโรงเรียน เพื่อให้ได้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม บิลล์ เกตส์ กับ พอล อัลเลน เพื่อนสนิท ได้แอบย่องเข้าไปในห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยวอชิงตันทั้งคู่ถูกจับได้แต่ก็ได้เจรจาตกลงกับเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ เพื่อช่วยจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ให้กับนักเรียนได้ใช้ฟรี ต่อมา บิลล์ เกตส์ได้เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แต่ต้องพักการเรียนไปโดยไม่จบการศึกษา เพื่อที่จะได้เริ่มประกอบอาชีพ ทางด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ ในระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ที่ฮาร์วาร์ด เขามีโอกาสได้ทำความรู้จักกับสตีฟ บาลเมอร์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ ทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมห้องในหอพักระหว่างที่เป็นนักศึกษาปี 1 
       ขณะที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ที่ฮาร์วาร์ด เขาได้ร่วมกับ พอล อัลเลน เขียนต้นแบบ ภาษาอัลแตร์เบสิก ซึ่งเป็นโปรแกรมอินเตอร์เพรเตอร์สำหรับเครื่องอัลแตร์ 8800 (เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรุ่นแรกที่ประสบความสำเร็จทางการค้าในกลางคริสตทศวรรษที่ 70) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาษาเบสิก ซึ่งเป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เรียนรู้ได้ง่าย ถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกโดยดาร์ทเมาท์คอลเลจ เพื่อใช้ในการเรียนการสอน
        เกตส์สมรสกับ เมลินดา เฟร้นช์ เมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1994 ทั้งคู่มีบุตรด้วยกันสามคน เจนนิเฟอร์ แคทารีน เกตส์
(เกิดเมื่อวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1996) โรรี จอห์น เกตส์ (เกิดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 1999) และ ฟีบี อาเดล เกตส์
(เกิดเมื่อวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 2002)
        ในปี ค.ศ. 1994 บิลล์ เกตส์ได้ม้วนกระดาษไลเชสเตอร์ ซึ่งรวบรวมงานเขียนของเลโอนาร์โด ดา วินชีมาไว้ในครอบครอง
และในปี ค.ศ. 2003 ได้นำม้วนกระดาษนี้ออกแสดงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งเมืองซีแอทเทิล
        ในปี ค.ศ. 1997 เกตส์ได้ตกเป็นเหยื่อของแผนการขู่กรรโชกทรัพย์อันแปลกประหลาด ของนายอดัม ควินน์ เพลตเชอร์
ชาวเมืองชิคาโก ซึ่งเกตส์ก็ได้ขึ้นให้การต่อศาลในการพิจารณาคดีดังกล่าว เพลตเชอร์ถูกตัดสินลงโทษเมื่อเดือนกรกฎาคม
ค.ศ. 1998 และถูกจำคุกเป็นเวลา 6 ปี ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1998 เกตส์ถูกนายโนเอล โกดังจู่โจมด้วยการ
ปาขนมพายหน้าครีมใส่ ระหว่างการไปปรากฏตัวที่ประเทศเบลเยียม
       ตามรายงานของนิตยสาร Forbe บิล เกตส์ได้บริจาคเงินให้การรณรงค์หาเสียงของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี ค.ศ. 2004 และตามรายงานของศูนย์เฝ้าระวังทางการเมือง เกตส์ถูกระบุว่าบริจาคเงินอย่างน้อย 33,335 ดอลลาร์สหรัฐ ให้กับการรณรงค์หาเสียงมากกว่า 50 ครั้ง ตลอดฤดูกาลเลือกตั้งในปีค.ศ. 2004
       เมื่อ วันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2004 บิล เกตส์ ได้ร่วมกับคณะกรรมการบริหารของ Berkshire Hathaway เพื่อสานความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการระหว่างเขากับ วอร์เรน บัฟเฟตต์ Berkshire Hathaway เป็นกลุ่มบริษัทที่รวมเอา บริษัทประกันภัยไกโค Benjamin Moore (บริษัทสี) และ Fruit of the Loom (บริษัทสิ่งทอ) เข้าไว้ด้วยกัน เกตส์ยังได้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในคณะกรรมการบริหารของ Icos ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของ Bothell
       เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 2005 สำนักวิเทศสัมพันธ์ของสหราชอาณาจักรได้ประกาศว่า บิล เกตส์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการอัศวินแห่งจักรวรรดิบริเตน อันเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตอบแทนที่ต่อสิ่งเขาได้อุทิศให้กับบริษัทในสห ราชอาณาจักร และความพยายามของเขาในการลดปัญหาความยากจนในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก แต่เนื่องจากเขาไม่ได้เป็นบุคคลสัญชาติในกลุ่มประเทศเครือจักรภพ เขาจึงไม่สามารถใช้คำนำหน้าว่า เซอร์ ได้ แต่เราต้องใส่อักษร "KBE" (Knight Commander of The British Empire) ตามหลังชื่อของเขาแทน


เกียรติประวัติ
- ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จาก มหาวิทยาลัยวาเซดะ ค.ศ. 2005
- รางวัลเกียรติยศผู้บัญชาการอัศวินแห่งจักรวรรดิบริเตน จากสหราชอาณาจักร ตามประกาศเมื่อปี ค.ศ. 2005 [1]
- ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากสถาบันเทคโนโลยีหลวง (Roytal Institute of Technology) - กรุงสต็อกโฮล์ม
ประเทศสวีเดน ค.ศ. 2002
- ติดหนึ่งใน 100 อันดับบุคคลสำคัญผู้มีอิทธิพลต่อประชาชนในสื่อต่าง ๆ จากการจัดอันดับของ หนังสือพิมพ์ เดอะ การ์เดียน ค.ศ. 2001
- ติดอันดับบุคคลผู้มีอำนาจ, นิตยสารซันเดย์ ไทม ค.ศ. 1999
- อันดับ 2 ในการจัดอันดับ 100 ดาวรุ่ง, นิตยสารอัพไซด์ ค.ศ. 1999
- อันดับ 1 ในการจัดอันดับ 50 ดาวรุ่งในโลกไซเบอร์, นิตยสารไทม ค.ศ. 1998
- อันดับที่ 28 ใน 100 อันดับบุคคลสำคัญผู้มีอิทธิพลในวงการกีฬา, นิตยสารสปอร์ตติง นิวส์ ค.ศ. 1997
- ผู้บริหารระดับสูงแห่งปี, นิตยสารชีฟ เอกเซกคูทีฟ ออฟฟิซเซอร์ ค.ศ. 1994
- นักกีฏวิทยา ได้ตั้งชื่อแมลงวันตอมดอกไม้พันธุ์หนึ่งว่า Eristalis gatesi ตามชื่อของบิลล์ เกตส์ เพื่อเป็นเกียรติแก่เขา

ประมาณการทรัพย์สินของเกตส์

        บิลล์ เกตส์ ติดอันดับหนึ่ง จากการจัดอันดับ "ฟอร์บ 400" ระหว่างปี ค.ศ. 1993-2005 และติดอันดับหนึ่งในการจัดอันดับมหาเศรษฐีโลกของนิตยสารฟอร์บ ในปี ค.ศ. 1996 และระหว่างปี ค.ศ. 1998-2005 ซึ่งจากการจัดอันดับดังกล่าว สรุปได้ว่าทรัพย์สินสุทธิของเขามีมูลค่าดังต่อไปนี้:

- ค.ศ. 1996 - 18.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 1 ของโลก

- ค.ศ. 1997 - 36.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 2 ของโลก
- ค.ศ. 1998 - 51.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 1 ของโลก
- ค.ศ. 1999 - 90.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 1 ของโลก
- ค.ศ. 2000 - 60.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 1 ของโลก
- ค.ศ. 2001 - 58.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 1 ของโลก
- ค.ศ. 2002 - 52.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 1 ของโลก
- ค.ศ. 2003 - 40.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 1 ของโลก
- ค.ศ. 2004 - 46.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 1 ของโลก
- ค.ศ. 2005 - 46.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 1 ของโลก
- ค.ศ. 2006 - 46.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 1 ของโลก

        การที่ทรัพย์สินสุทธิของเกตส์ มีมูลค่าลดลงตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 เป็นต้นมา
มีสาเหตุมาจากการที่หุ้นของไมโครซอฟท์มีราคาลดลง รวมถึงการที่เขาได้บริจาคเงินหลายพันล้านดอลลาร์ให้องค์กรการกุศลของเขา และแม้เขาจะมีรายได้ลดลงตามรายงานของนิตยสารฟอร์บในปีค.ศ. 2004 เกตส์ยังได้บริจาคเงินรวมกว่า 28,000ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับองค์กรการกุศลในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

        เขาได้กลายเป็นบุคคลที่มั่งคั่งที่สุดในโลกไปเสียแล้ว แม้จะนับเอาประมุขของรัฐ
(ผู้ซึ่งทรัพย์สินมาจากสถานะทางสังคม) ไว้ในการจัดอันดับด้วยก็ตาม(แม้ว่าการจัดอันดับตามมาตรฐานของนิตยสารฟอร์บนั้น จะไม่รวมเอาประมุขของรัฐเอาไว้ด้วย ฟอร์บได้จัดทำบัญชีประมาณการทรัพย์สินของประมุขแต่ละประเทศไว้ต่างหากเมื่อนำรายชื่อจากการจัดอันดับทั้งสองแบบมารวมกันแล้ว พบว่าเกตส์เป็นบุคคลที่มั่งคั่งที่สุดในโลก)
 กฎ 11 ข้อ 
แห่งความสำเร็จของ "Bill Gate"
1.    จงปรับชีวิตของคุณ  คุณต้องยอมรับว่าชีวิตนั้นไม่ยุติธรรม ไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์แบบหรือโชคดี, คุณต้องเรียนรู้ในการปรับตัวเข้ากับชีวิตของคุณ  แล้วจงเปลี่ยนแปลงมัน  ทำอย่างไรการดำรงชีวิตของคุณจะดำเนินไปด้วยวิถีทางของคุณ  คุณต้องจัดการและลงมือทำด้วยชีวิตของคุณเอง
2.    นำชีวิตไปสู่ความสำเร็จ  โลกใบนี้ไม่แคร์ว่าคุณเป็นใคร คุณต้องทำเพื่อความสำเร็จเพียงแต่คุณสามารถยืนหยัดในชีวิตด้วยลำแข้งของคุณ   ความสำเร็จคือสภาวะชีวิตที่สูงสุด   มันสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และทัศนคติ และแม้กระทั่งการยกย่องตนเอง   ถ้าคุณคิดว่าความสำเร็จไม่ใช่เป็นคุณ แล้วก็ถือว่าเป็นความคิดที่น่าละอายสิ้นดี

3.    ไม่มีความเจ็บปวด ไม่มีผลสำเร็จ   ความสำเร็จไม่เคยได้มาโดยอัตโนมัติ  คุณจำเป็นต้องลงแรงหากเป็นความปรารถนาของคุณ   นี้คือหลักการพื้นฐานในชีวิตของคุณ  คุณไม่ได้เป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทหากคุณไม่สามารถทำงานนั้นได้  คุณไม่สามารถหาเงินได้ถึง 100,000 เหรียญสหรัฐต่อเดือนหากคุณไม่ใช้ความพยายามหามา    ดังนั้นหยุดความคิดที่ว่าความสำเร็จลอยมาจากสวรรค์ โดยปราศจากทำงานหนักแล้ว ความสำเร็จจะไม่ใช่เป็นของคุณ

4.    การเปลี่ยนแปลงทัศนคติของคุณ  หากคุณคิดว่าครูของคุณในโรงเรียนเคร่งครัด, คิดว่านายของคุณหลังจากคุณได้เข้าไปทำงาน    หยุดการบ่นคนอื่น และเปลี่ยนแปลงทัศนคติถึงวิธีทีคุณมองสิ่งต่าง ๆ

5.    เรื่องราวทุกอย่าง ไม่วาเรื่องธุรกิจเล็กหรือใหญ่  พวกเขาสามารถทำเงินได้  ธุรกิจเล็กเติบโตเป็นธุรกิจใหญ่   ดังนั้นจากการก้าวไปทีละเล็กละน้อยทุก ๆวัน  คุณก็สามารถบรรลผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สักวันหนึ่ง

6.    เรียนรู้ข้อผิดพลาด  เป็นสิ่งที่บิลเกตส์แนะนำ เราจำเป็นต้องเรียนรู้จากข้อผิดพลาด ทุกคนมีโอกาสผิดพลาด ไม่มีใครสมบูรณ์แบบในโลกนี้  หากคุณเคยผิดพลาด แล้วเรียนรู้จากมัน  และไม่ทำผิดพลาดซ้ำอีกครั้ง  เพียงเท่านี้คุณก็สามารถปรับปรุงตนเองไปสู่ความสำเร็จที่สูงกว่า

7.    ลงมือทำด้วยตนเอง ในโลกนี้คุณมีสิ่งที่ต้องทำด้วยตัวของคุณเอง  หยุดพึ่งพาคนอื่น หากคุณยังพึ่งพาคนอื่น คุณจะไม่สามารถเรียนรู้ถึงกระบวนการ ยิ่งคุณพึ่งคนอื่นเท่าใด คุณก็จะสูญเสียความเป็นตัวของคุณเอง  และเมื่อคุณจะปกป้องการพึ่งพาคนอื่น ความสำเร็จก็เป็นของคุณ ไม่ใช่ของผู้อื่น

8.    คุณมีโอกาสครั้งเดียว  สิ่งต่าง ๆ ส่วนมากในชีวิตของเราเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว  ดังนั้นคุณต้องใช้โอกาส และซาบซึ้งกับมัน   บางครั้งหากคุณสูญเสียโอกาสแล้ว อย่าได้กังวลในสิ่งที่คุณสร้างโอกาสขึ้นมา
9.    จงสร้างคุณค่าในตัวคุณ  คนเรามีเวลา 24 ชั่วโมงต่อวัน 365 วันต่อปี  ความจริงเราไม่มีเวลามาก ชีวิตคนเราสั้นมาก  คุณต้องเรียนรู้คุณค่าของเวลา จงใช้เวลาของคุณไปสู่กระบวนการที่ทำให้คุณเติบโต, ทำให้คุณประสบความสำเร็จ  เพียงแต่จำไว้ว่าอย่าได้ผลัดวันประกันพรุ่ง

10. ทำในสิ่งที่คุณคาดว่าจะทำ  สิ่งที่คุณดูทีวีในทุกวันนี้ไม่ใช่โลกที่แท้จ
ริง ในโลกที่แท้จริงคุณจำเป็นต้องออกไปทำงานให้เกิดผลงานออกมา

11. จงทำดีกับทุกคนที่ล้อมรอบคุณ  นี้คือกฎทองคำของชีวิตในการทำดีกับทุกคน ทุกคนก็จะทำดีกับคุณ     ดังนั้นหากคุณต้องการความร่ำรวย จงทำให้คนอื่นรวยก่อน  กฎทองคำแห่งชีวิตไม่เคยเปลี่ยน และคุณต้องปฏิบัติตามกฎนี้เพื่อความสำเร็จ

       สำหรับผู้อ่านท่านไดต้องการที่จะประสบความรับเร็จอย่างสง่าแบบ บิต เกตส์ ต้องนำกฎ 11 ข้อนี้ไปใช้กับตัวเอง บทความต่อไปเราจะไปติดตามความสำเร็จของ Steve Jobs : ผู้ก่อตั้งและสร้างความยิ่งใหญ่ ให้แบรนด์ Apple กัน หลายท่านอ่านเคยได้ยินได้ฟังเรื่อวราวของ Steve Jobs กันมาบ้างแล้ว แต่ก็ฝากติดตามด้วยนะครับ สำหรับบทความนี้ขอขอบคุณ http://th.wikipedia.org/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น