วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เจมส์ คาเมรอน James Cameron ผู้กำกับระดับออสการ์


       มาติดตามดูวิถีความสำเร็จของ เจมส์ คาเมรอน James Cameron ผู้กำกับระดับออสการ์ กันเลยดีกว่า


       jame cameron เกิดวันที่ 16 สิงหา ปี 54 นับไปนับมาก็ 55 แล้วครับ คาเมรอนไม่ใช่อเมริกันแต่กำเนิดเพราะเขาเกิดและถือสัญชาติแคนนาดา พ่อเป็นวิศวกรด้านวางระบบและไฟฟ้า มารดาเป็นนางพยาบาลและจิตกร ตอนเด็กๆคาเมรอนเคยให้สัมภาษณ์ ว่าในวัยเด็กของเขาไม่ลำบากแต่ก้ไม่หรูหรา มีชีวิตเรียบง่ายสบายๆ ไม่ยากจนค่นแค้น จึงมีความฝันแบบเด็กๆอยากเป็นพวกจิตกรแบบมารดา
       jame cameron เขาผ่านการเรียนที่แคลลิฟอร์เนียร์ และโตรอนโต  ต่อมาเขาดร็อปดเรียนไปซะเฉยๆเหมือนกับกำลังหาตัวเองไม่เจอ โดยหยุดเรียนตอนปี 2 ไปทำงานรับจ้างทั่วไป ทั้งขับรถบรรทุกและงานเขียน ระหว่างนั้นก็พยายามเรียนด้าน สเปเชียล เอฟเฟค ด้วยตนเอง จนวันหนึ่งในปี 77 เขาได้มีโอกาสได้ดู STARWARS ของลูคัส เขาบอกกับตัวเองว่า จะสร้างหนังที่ดีเทียบเท่าสตาร์วอร์ให้ได้ ในปีถัดมาเขาสมัครรับทำโมเดลให้กับ Roger Corman Studios ทั้งเก็บเงินซื้อกล้องถ่ายหนังมาลองจับมุมภาพเอง ครีเอทพ์ภาพที่ตนเองอยากได้ เขาทำงานได้ดีจนได้เป้น อาร์ตไดเร็เตอร์ในหนังเรื่องแรก  Battle Beyond the Stars (1980) 
       แล้วก้าวกระโดดของเขาก็มาถึงเมื่อได้มีโอกาสทำงานในการออกแบบเอ็ฟเฟ็กซ์  ในหนังของ จอห์น คาร์เพนเตอร์ เรื่องดัง   Escape from New York (1981)  และผลงานลำดับต่อๆมาที่เขาเป็นทั้งที่ปรึกษาและออกแบบด้านเทคนิคพิเศษ นั้นต่างสร้างเครดิตให้เขาไล่มาเลยตั้งแต่ Android (1982),  Galaxy of Terror (1981) แม้เเต่หนังเล็กๆอย่าง  Piranhaและ  Piranha II: The Spawning
        หลัง จากนั้นสามปี เขานำโปรเจ็คที่คิดไ้ด้โดยบังเอิญ ไปเสนอ ตอนแรกเขากะวางดาราที่หมายตามาเเสดงจากเรื่องปิรันย่า แต่เมื่อต้องมาพบกับ อาร์โนล ชวาสเซเน็กเกอร์ ทุกอย่างที่เขาคิดเปลี่ยนไป นั่นคือเขาเปลี่ยนพล็อตหนังเเละนำอาร์โนลมาแสดงเป็นผู้ร้ายตัวดำเนินเรื่อง แทน
       ต่อมา คาเมรอนได้เข้ามาทำหนังเรื่องแรกของเขา คือ The Terminator ในปี 1984 ครับ เดิมทีเขาไม่ได้ตั้งใจมากำกับเพราะเเค่ทำร่างคร่าวๆถึงฉากมุมกล้อง สกรีนเพล์ ไว้เพื่อขายต่อเท่านั้น เเต่ต่อมาเมื่อ โออีรอน สตูดิโอและ  Gale Anne Hurd เข้ามายื่นโอกาสสำคัญในชีวิตให้เขา(ซึ่งต่อมาคือภรรยาของเขา) ในการกำกับหนังเรื่องนี้เเละพบกับ อาโนล ชวาสเซเน็กเกอร์ ทำให้เขาเข้ามาทำหนังที่ทุนสร้างเพียง 5 ล้านเหรียญ แต่ทำเงินไปถึง เกือบ ๆ 80 ล้านในสมัยนั้นแถมด้วยกลายเป็นภาคต่อที่ทรงคุณค่าและมีการซื้อขายที่แพงหลุด โลก หลังการล่มสลายของ Mario Kassar แห่ง Carolco Pictures ในสมัยหลังภาคสอง

      ผลงานเขียนและกำกับของเขาเช่น ฅนเหล็ก 2029 และ ไททานิก ที่ขึ้นแท่นภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดอันดับหนึ่งตลอดกาลในปี ค.ศ 1997 จนถึงปัจจุบันนี้ผลงานการกำกับของเขามียอดรวมราว 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปรับรายได้ตามอัตราเงินเฟ้อ หลังจากมีผลงานภาพยนตร์หลายเรื่อง แคเมรอนเน้นการทำงานด้านการผลิตสารคดีและระบบกล้องฟิวชันดิจิตอล 3 มิติ เขากลับมาทำผลงานภาพยนตร์อีกครั้งในรอบ 12 ปี ในผลงานเรื่อง อวตาร ที่ใช้เทคโนโลยีระบบกล้องฟิวชัน ภาพยนตร์ฉายวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 2009 และอีกเช่นเดียวกันภาพยนตร์เรื่อง อวตาร ได้ทำลายสถิติภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลของไททานิก ที่สร้างโดยเขาเอง ซึ่งครองสถิติมายาวนานถึง 12 ปี ลงอีกเช่นกัน
       เจมส์ แคเมรอน เป็นผู้ริเริ่มสร้างภาพยนตร์ 3Dเป็นคนแรก โดยเล็งเห็นว่าจะได้อรรถรถในการรับชมมากขึ้นพร้อมกันค่าตั๋วภาพยนตร์ที่จะทำ รายได้ได้มากขึ้น โดยเขาเคร่งครัดและกล่าวไว้ว่า "ภาพยนตร์ 3 มิติควรจะเป็นสิ่งที่สามารถสร้างได้กับเฉพาะภาพยนตร์ในสมัยใหม่หลังปี ค.ศ. 2009 เท่านั้น ไม่ควรนำภาพยนตร์ที่ไม่ได้ผลิตเป็น 3 มิติตั้งแต่แรกมาดัดแปลงให้เป็น 3 มิติอีก เว้นเสียแต่ว่าภาพยนตร์เรื่องนั้นไม่ได้ผลิตเป็น 3 มิติในช่วงที่เทคโนโลยียังไม่สามารถทำได้" ภาพยนตร์ 3D สุดอลังการอย่าง อวาตาร จึงได้ทำลายสถิติภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลของไททานิก



"มุ่งมั่นอยู่กับฝัน และทำมันให้เป็นจริง"


            สำหรับบทความต่อไปเราจะไปติดตามความสำเร็จของ 10 มหาเศรษฐีระดับโลก ที่เรียนไม่จบมาหวิทยาลัย คนต่อไป นักร้องสาว Lady Gaga : นักร้องซุปเปอร์สตาร์ หลุดโลก สำหรับบทความนี้ขอขอบคุณ http://th.wikipedia.org และ http://www.ac108.com
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น